สายชาร์จเสีย ลองซื้อเองแล้วก็ชาร์จไม่เร็ว สู้ของที่แถมมากับเครื่องไม่ได้ วันนี้เราเลยจะมาบอกเคล็ดลับการซื้อสายชาร์จยังไงให้ชาร์จเร็ว ชาร์จไว ปลอดภัยไม่ซ็อต กับพื้นฐานการเข้าใจเกี่ยวกับสายชาร์จขั้นสูง แต่แนะนำให้ไปอ่านเรื่องการเลือกหัวชาร์จก่อน แล้วมาต่อที่การเลือกสายชาร์จกันเลย
สายแบบไหนชาร์จเร็วได้
คงเป็นคำถามพื้นฐานเลยที่หลายคนสงสัย ว่าจะต้องซื้อสายชาร์จแบบไหนละถึงจะชาร์จเร็วให้ได้เหมือนกับสายที่แถมมากับตัวเครื่อง จะต้องดูยังไงดี เราเลยจะมาบอกวิธีง่ายๆ ในการดูว่าสายแบบไหนถึงจะเหมาะกับโทรศัพท์ของคุณ และต้องดูให้เข้ากับหัวชาร์จด้วยนะ โดยการเลือกสายชาร์จมีดังนี้
1.ดูมาตราฐานของสาย
การดูมาตราฐานต่างๆของสายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจำเป็นต้องดูตั้งแต่เนิ่นเลย ว่าสายที่เราจะซื้อนั้นมีมาตราฐานรับรองอะไรบ้าง เพื่อให้ตรงกับสมาร์ทโฟนของเรา หรือหัวชาร์จของเรา เช่น ไอโฟน(iphone)ต้องผ่านมาตราฐานการรองรับ MFI (made for iphone) หรือ การผ่านมาตาฐานต่างๆเหล่านี้เช่น
CE (Conformité Européenne) คือการรับรองความสอดคล้องตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป แสดงว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการทดสอบและตรวจสอบตามเกณฑ์คุณภาพและความปลอดภัยที่กำหนด
FCC (Federal Communications Commission) คือหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบการประกาศเกี่ยวกับการสื่อสารและการวิทยุในสหรัฐอเมริกา การรับรอง FCC ในสาย USB แสดงว่ามันเป็นไปตามข้อกำหนดทางเทคนิคและมาตรฐานการสื่อสารของสหรัฐอเมริกา
RoHs (Restriction of Hazardous Substances) เป็นการจำกัดสารพิษในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และควบคุมการใช้สารพิษที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การได้รับการรับรอง RoHs แสดงว่าผลิตภัณฑ์มีการใช้สารพิษในปริมาณที่ปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด
2.เทคโนโลยีที่รองรับ
ถ้าเป็นไปได้ ควรซื้อสายที่มากับหัวชาร์จไปเลย เพราะส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จเฉพาะ เช่น มากับเทคโนโลยีการชาร์จ PD(Power Delivery) ตัวสายก็จะมีสายชาร์จที่รองรับติดมาด้วย เพราะฉะนั้นหากซื้อหัวชาร์จและสายชาร์จ ที่มีเทคโนโลยีการชาร์จ ที่ตรงกับสมาร์ทโฟนของเราพอดี ก็จะสามารถช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้น ซึ่งอาจจะชาร์จเร็วกว่ารุ่นเก่าที่เราเคยใช้ซะอีก
3.กระแสไฟที่รองรับ
จริงๆ การดูกระแสไฟก็สำคัญมากๆ เพราะมีผลต่อการชาร์จโดยตรง จำเป็นที่จะต้องดู ว่าสายชาร์จสามารถที่จะรองรับกระแสไฟฟ้าได้เท่าไหร่ โดยเราจะแนะนำกระแสขั้นต่ำให้เริ่มต้นที่ 5V/2.4A แต่อาจจะรองรับการชาร์จเร็วไม่ได้ หากต้องการชาร์จเร็วจริงๆ รองดูสายที่รองรับกำลังไฟที่ 60W,100W,120W หรือกำลังสูงสุดอย่าง 240W ไปเลย เพราะจะค่อนข้างเป็นไปได้ว่าสายที่รับกำลังไฟได้สูงขนาดนี้ต้องสามารถใช้กับหัวชาร์จเร็วได้แน่นอน ทั้งนี้ต้องดูเทคโนโลยีชาร์จด้วยว่าสายรองรับหรือเปล่า
แต่ทั้งนี้ ต้องดูด้วยว่าอุปกรณ์เรารองรับกระแสไฟได้สูงสุดเท่าไหร่ เพราะจะได้มากังวลกับกระแสที่เกินและเสี่ยงต่อการซ็อตภายหลัง เช่นโทรศัพท์เรารับได้ 45W การเลือกสายก็ไม่ควรเกินไปกว่านั้น แต่จริงๆแล้วการเลือกสายชาร์จที่รับกำลังไฟฟ้าได้สูง ก็ใช่ว่าไฟฟ้าจะเข้าสมาร์ทโฟนของเราเกิน เพราะโทรศัพท์ก็จะรับเท่าที่รับไหว แต่การเลือกสายชาร์จที่รองรับกระแสไฟได้สูงนั้นเพื่อความปลอดภัยว่า ต้องให้มีไฟฟ้าแรงสูงเข้ามาสายก็จะยังรับไหวอยู่ดีเพราะฉะนั้น เลือกสายชาร์จที่รับกำลังไฟฟ้าได้สูงไปเลย
หลักการทำงานของสายชาร์จเร็ว
เราจะมาอธิบายหลักการทำงานของสายชาร์จกันว่าปกติแล้วจะทำงานยังไง โดยจะยกตัวอย่างการทำงานสายชาร์จ Type-C เพราะในอนาคตชาร์จสมาร์ทโฟนทั้งหมดจะต้องใช้เพื่อให้เป็นมาตราฐานเดียวกัน โดยเราจะมาอธิบายคร่าวๆ ตามรูปดังนี้
1. GND หรือ ground ที่หลายๆคนจะรู้จักคือสายดิน แต่ในทางวงจรไฟฟ้าเราจะเรียกว่ากระแสลบหรือจุดกลับของกระแสไฟฟ้าในวงจรซึ่งจะช่วยรัษาแรงดันของกระแสไฟฟ้าให้คงที่
2. ส่งข้อมูล เป็นพอร์ตที่ใช้ส่งข้อมูลในสายชาร์จ ซึ่งส่วนใหญ่ความเร็วของพอร์ตนี้จะอยู่ที่ 480 mb/ps
3. จ่ายกระแสไฟ หรือสำหรับชาร์จนั้นเอง ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 ช่อง นั้นคือช่อง A4,A9,B4,B9 ซึ่งช่องนี้แหละจะทำหน้าที่จ่ายไฟเข้าโทรศัพท์ของเรา
4. ตวรจสอบเทคโนโลยีชาร์จ ซึ่งขานี้จะสำคัญมากๆเพราะจะเป็นตัวที่ระบุว่าสมาร์ทโฟนเราใช้เทคโนโลยีอะไรหัวชาร์จตรงกันไหม ถ้าตรงกันทั้งหัวชาร์จ สายชาร์จ และสมาร์ทโฟน ก็จะสามารถใช้งานเทคโนโลยีการชาร์จได้ ซึ่งมีความสำคัญมากๆ
5. บัสสำรอง เมื่อการจ่ายไฟฟ้าเกิดสถานะผิดปกติ จุดนี้จะจ่ายไฟฟ้าในกระแสต่ำแทน หรือในกรณีไม่เจอเทคโนโลยีชาร์จที่ไม่ตรงกันหรือไม่รู้ว่าที่ชาร์จอยู่รับกระแสได้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะโยกมาเป็นกระแสระดับต่ำในตัวนี้แทน นี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า เมื่อซื้อชาร์จที่ไม่ต้องรุ่น ก็จะทำให้ไม่สามารถชาร์จเร็วแถมยังทำให้ชาร์จไฟได้ช้ามากๆอีกต่างหาก
6. พอร์ตส่งข้อมูลความเร็วสูง ซึ่งจะต้องบอกไว้ก่อนว่า พอร์ตนี้ไม่ได้มีในทุกสาย โดยใน USB type C 2.0 ยังไม่รองรับ แต่ว่าจะสามารถเจอได้ใน USB type C 3.0 มากกว่า ซึ่งพอร์ตนี้จะถูกใช้งานก็ต่อเมื่อสมาร์ทโฟนรองรับการส่งข้อมูลแบบไวด้วยเช่นกัน
ชาร์จไม่ค่อยเข้า ช้า แบตไม่เต็มสักที
หาเรามาดูสาเหตุกันว่าทำไมถึงชาร์จช้าไม่เต็มสักที ตามหลักการทำงานของสายชาร์จข้างบนจะเห็นว่า การเลือกเทคโนโลยีชาร์จให้ตรงกันนั้นมีผลมากๆ เพราะถ้าหากหัวชาร์จ สายชาร์จ และสมาร์ทโฟนของเรา มีเทคโนโลยีชาร์จตรงกันก็จะชาร์จได้เร็วอย่างแน่นอน หรืออธิบายง่ายๆว่า ถ้า 3 อย่างนี้คุยภาษาเดียวกันก็จะทำงานได้อย่างถูกต้องแล้วรวดเร็ว แต่ถ้าหาก 3อย่างนี้ คุยกันคนละภาษา ก็จะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้และทำให้การชาร์จไฟนั้นช้าลง
เพราะฉะนั้นจำไว้ให้ดีว่า การเลือกสายชาร์จ ต้องดูเทคโนโลยีชาร์จให้ตรงกันทั้ง 3 อย่าง ได้แก่หัวชาร์จ สายชาร์จ สมาร์ทโฟน ถ้า 3 อย่างนี้ตรงกันยังไงก็ชาร์จได้เร็วอย่างแน่นอน
วัสดุแบบไหนดีที่สุดสำหรับสายชาร์จ
การเลือกวัสดุที่ดี ก็สามารถทำให้สามารถใช้สายชาร์จได้นานๆ และไม่มีปัญหาการช็อตหรือไฟรั่วจากการที่จะฉีก ขาด ทำให้เกิดอัตรายถึงชีวิตได้เลย จากคำถามที่ว่าแล้ววัสดุแบบไหนละที่จะช่วยให้สายชาร์จทนและดีที่สุด เราจึงมาแนะนำให้เลือกวัสดุดังนี้
1.บริเวณหัวสายชาร์จ ต้องเป็นวัสดุที่ทำจา อลูมีเนียม (aluminum) หรือ สังกะสี (Zinc) เพราะจะสามารถถึงต่อการเสียดสีได้บ่อยครั้งกว่า จะดึงเข้าดึงออก ก็ยังทนทานอยู่แล้วใช้งานได้หลายครั้งมากกว่า
2. บริเวณสายชาร์จ เราแนะนำให้เป็นสายด้านนอกที่หุ้มด้วย ไนล่อนถัก (nylon) เพราะจะทนต้องการบิดงอและคงรูปสายได้ดีกว่า ไม่เกิดอาการฉีกขาด หรือปัญหาสายบริเวณข้อต่อหัก ปริแตก ก็จะหมดไป
สรุป การเลือกสายชาร์จเร็วต้องเลือกยังไง
1.ดูเทคโนโลยีการชาร์จของ หัวชาร์จ สายชาร์จ สมาร์ทโฟนให้ตรงกัน
2. เลือกสายที่รองรับกระแสไฟได้สูงและมีความทนทาน
3.ดูว่าชาร์จมีการผ่านมาตราฐานรับรองที่เป็นสากลหรือไม่
เพียงแค่คุณเช็ค 3 ข้อนี้ได้ ก็จะสามารถได้สายที่ชาร์จเร็วได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องกังวลเลย และถ้าเข้าใจแล้วการเลือกซื้อสายชาร์จให้ถูกต้อง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นสายแพงๆอีกต่อไป จะราคาแบบไหน ถ้ามีเทคโนโลยีที่ตรงกันทั้ง หัวชาร์จสายชาร์จและสมาร์ทโฟน ไม่ว่ายังไงก็สามารถชาร์จเร็วได้อย่างแน่นอน
และเราขอแนะนำว่าถ้าหากเข้าใจมากขึ้น ให้ไปอ่าน เทคโนโลยีชาร์จเร็ว ด้วย จะได้เข้าใจว่าเทคโนโลยีชาร์จเร็วมีอะไรบ้าง
ขอขอบคุณที่สนใจบทความนี้และหวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนที่กำลังมองหาสายชาร์จ ให้ได้คำตอบที่คำถ้วนและถ้าตัดสินใจซื้อไม่ได้ เราก็ของแนะนำ 10 สายชาร์จแห่งปี2024 สามารถกดลิงค์แล้วไปเลือกซื้อกันได้เลย